19.6.53

Blueberry Yogurt Almond Oreo Cheese Cake

พักการทำช็อคโกแลตช่วงนี้ ลองมาทำ CheeseCake ดีกว่า ... ยังไม่มีเตาอบเลย ว่าแล้วก็ทำชีสเค้กแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้เตาอบแล้วกัน
ลองดูสูตรนั่นสูตรนี้ดูแต่ก็ยังไม่พอใจ อืม ทดลองสูตรที่คิดขึ้นเองเลยดีกว่า

....... และแล้วก็ได้ Blueberry Yogurt Almond Oreo Cheese Cake สุดลงตัว

สูดรนี้เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการบดโอรีโอ 2 แถว (ไม่เอาครีม) ผสมกับเนยจืดครึ่งก้อน ให้ละเอียดแล้วอัดลงพิมพ์ 

หลังจากนั้น นำโอริโออีก 1/2 แถวมาบดแบบหยาบๆ ผสมกับถั่วอัลมอลล์บด แล้วเทลงไปบนพิมพ์ที่ อัดโอรีโอเนื้อละเอียดไว้แล้ว และนำไปแช่ตู้เย็น

ในขั้นตอนการทำส่วนที่เป็น ชีสเค้ก นำครีมชีส 1 ก้อน มาพักไว้ให้ละลาย และเทนมข้นหวาน 1/4 ถ้วยตวง โยเกริต์ 1 ถ้วยตวง ค้นให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

เมื่อเนื้อชีสเค้กค่อนข้างเนียนแล้ว ให้ค่อยเทน้ำตาลไอซิ่ง 3/4 ถ้วยตวง ค่อยผสมไปทีละนึด และตามด้วยเจลาตินที่ละลายแล้ว 2 ช้อนโต็ะ

พอได้ทีแล้ว เทเนื้อชีสเค้กลงบนพิมพ์ เกลี่ยให้เทากันและนำไปแช่ตู้เย็น 2-3 ชั่วโมง 

เมื่อเค้กเช็ตตัวดีแล้ว จึงเทบลูเบอร์กระป๋องลงไปในส่วนบน เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

^ _ ^ ชิมแล้วอร่อยกว่าที่คิดอะ : โอรีโอกับถั่วอัลมอลล์ ช่างเข้ากันลงดัว เนื้อชีสเค้กก็กลมกล่อมกำลังดี ด้วยส่วนผสมของโยเกริต์ทำให้เนื้อชีสเค้กเบาและนุ่ม เข้ากันได้ดีกับ บลูเบอร์รี่และโอรีโอ...

21.5.53

ผลงาน 2010.05.20

วันนี้ตั้งใจจะทำ Praline ซัก 2 ชนิด โดยใช้ลูกเกด เหล้ารัม และกล้วยหอมเป็นหลัก แต่ดันเหลือช็อคโกแลต กับวัสดุดิบอีก เลยได้ของแถม เป็นกึ่งๆช็อคโกแลตเค้กชิ้นเล็กๆ คับ (ตอนที่ทำ หากล้องถ่ายรูปไม่ได้ จึงมีรูปแต่ตอนที่เสร็จแล้วครับ)

Rum Raisin Dark Choc Praline

เปลือกด้านนอก เป็น Dark Choc 70%

ไส้ข้างใน Praline เป็น เมล็ดลูกเกด และเหล้า Barcadi Rum ตามด้วย Milk Chocolate ละลายกับเนยจืด

สูตรนี้ใช้เหล้ารัมเทลงไปในพิมพ์ช็อคโกแลต แล้วราดตามด้วย Milk Chocolate เลยครับ โดยไม่ผสม เพื่อเวลาทานจะได้มี Rum Liquor ไหลออกมาเมื่อกัดช็อคโกแลตในปาก ชุ่มช้ำซะใจไปเลย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Banana Coffee  Dark Choc Praline

เปลือกด้านนอก เป็น Dark Choc 70%
ไส้ข้างใน Praline เป็น กล้วยหอมสด หมักกับ Espresso เข้มข้น ผสมกับ Milk Chocolate
ได้ทั้งความรู้สึกนุ่มลิ้นทั้งรสของกล้วยหอม และกลิ่นของกาแฟ ที่คลุกเคล้ากับ Milk และ Dark Chocolate อย่างกลมกล้อม

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Sweety Banana Chocolate Cake (อันนี้เอาของเหลือๆ มาทำ แต่ดันอร่อยจนได้)

หลังจากที่ใส่ไส้ Praline แล้ว ยังเหลือช็อคโกแลตอีกเพียบจะทิ้งก็เสียดาย เลยไปเอาพิมพ์ซิลิโคนสำหรับเค้กชิ้นเล็กมาใช้
เริ่มโดยเทลูกเกดที่เหลือลงไปก่อน แล้วราดด้วยช็อคโกแลตที่ผสมกับ เนยจืดละลายตามลงไปหนาซัก 3 ซม 
หลังจากนั้นหั่นกล้วยหอมที่เหลือเป็นแว่นๆ หนาประมาณครึ่งซม วางเรียงลงไปหลวมๆ แล้วราดตามด้วยซ็อคโกแลตอีกครั้ง
ตอนทำก็คิดว่าเอะ แล้วมันจะเป็นเค้กเหรอ .. บังเอิญจริงเหลือบไปเห็นบนโต๊ะในบ้านใครไม่รู้ซื้อยูโรคาสตาดมาทิ้งไว้
ได้การละ เอาไอ้เนี้ยแหละทำฐานซะเลย ว่าแล้วก็จับยูโรคาสตาดก้อนกลม มาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ลงไปในพิมพ์จนเต็ม
เสร็จแล้วก็ราดด้วยช็อคโกแลตตาม เป็นอันปิดท้าย เอาพลาสติก wrap แล้วเข้าตู้เย็นทันที พอนำออกมาก็เป็นอย่างที่เห็นละครับ
จะทานอย่างเดียวก็กะไรอยู่... เอาวิปครีมมาใส่พอเป็นพิธีด้วยดีกว่า ... ของเหลือก็อร่อยได้จริงๆ 555

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



3.5.53

ผลงาน 2010.05.02

ไอเดียในการทำช็อคโกแลตครั้งนี้จะใช้ถั่วเป็นหลักครับ ... วันนี้จะทำขนม 2 ประเภท คือ Truffle กับ Coating ครับ

Spring / Autumn / Winter  - Milk Choc Pebbles

ส่วนผสมได้แก่
ถั่วแมคคาดาเมียอบแห้ง 
Milk Chocolate 250 กรัม ผสมวิปครีม 4 ช้อนโต๊ะ 
ผงชาเขียว ผงโกโก้ ผงน้ำตาลไอซิ่ง

Comments: 
จากการทดลองทำ Coating ด้วยผงทั้ง 3 ชนิดกับ Milk Choc ผงโกโก้มีความกลมกลืมมากที่สุด อร่อยที่เดียว
 สำหรับผงน้ำตาลไอซิ่งควรใช้กับ Dark Choc มากกว่าเพราะมันทำให้มีรสชาติหวานเกินไปเมื่อใช้กับ Milk Choc และสำหรับผงชาเขียวในโอกาศหน้าควรจะใช้กับ White Choc มากกว่าถึงทำให้รสชาเขียวเด่นขึ้นมาได้ สำหรับ Milk Choc มันจะดูดทั้งรสชาติและกลิ่นของชาเขียวหายไป ... 


Extreme Almond Lover Dark Choc Truffle


ส่วนผสม ได้แก่
Dark Chocolate 200 กรัม 
เนยถั่ว 50 กรัม 
วิปครีม 60 กรัม ผสมผงกาแฟ ครึ่งช้อนโต๊ะ 
Whisky 1 ฝา 
ถั่ว Almondบดหยาบๆ 250 กรัม 
Milk Chocolate เล็กน้อยสำหรับแต่งยอด

Comments: รสชาติจะหนักไปทางขมเป็นหลัก เนื่องจากใช้ Dark Choc 70% สำหรับผู้ชอบ almond กินไปคำหนึ่งถั่วเนี้ยเต็มปาก ซะใจไปเลย ....555




 



25.4.53

ผลงาน 2010.04.12

  

ว่ากันด้วยผลงานชิ้นแรก และดีโซด์แพกเกจจิ้งด้วย โดยเรียงตามลำดับความตั้งใจดังนี้ครับ

Choco Cookie (เป็นผลผลิตจากของเหลือจากการทำช็อคโกแลตแบบอื่น แต่บังเอิญว่าอร่อยสุด 555)

ชั้นที่ 1 (ล่างสุด) คุ๊กกี้ธัญพืชบดผสมเนย

ชั้นนที่ 2 Milk Choc ผสมถั่วอัลมอลบด เม็ดทานตะวัน ลูกเกด และอินทผลัม

ชั้นที่ 3 Dark Choc 70% ผสมกลิ่นส้ม

ชั้นที่ 4 โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง

Banana Praline (อันเนี้ยตั้งใจทำเลย อยากรู้ว่า ช็อคโกแลตพราลีนจะใส่ไส้ผลไม้สดได้มั้ยน้าาา อืม กินแล้วอร่อยมากๆ)

  

ส่วนเปลือก Dark Choc 70% ผสมกลิ่นกล้วยหอม

ส่วนไส้ Milk Choc ผสมกล้วยหอมสุข หั่นชิ้นเล็กๆ

Rum Raisin Praline ( อันเนี้ยช็อคโกแลตผสมเหล้ารัม คลาสสิกสุด ยิ่งกินยิ่งเมา ...มัน)

ส่วนเปลือก Dark Choc 70% 

ส่วนไส้ Milk Choc ผสมด้วยเหล้ารัม และลูกเกด

Mint Truffle (โคตรหวานอะ ,คุณแม่คอมเม้นท์ ..น้องบอกว่ากินเสร็จต้องกินน้ำตาม 555 หวานซะใจจริงๆ)

White Choc ผสม Mint Liquor แต่งด้วย Dark Choc 

และสอดไส้ Cashew Nut เคลือมงา

...... โปรดติดตามผลงานต่อไปครับผม...... ^_^

24.4.53

ที่ไปที่มาของ 37 CHOCOLATTE

ขอพูดถึงที่ไปที่มา ก่อนที่เพื่อนๆ จะงงนะครับว่าเขียนบล็อคทำไม ...

ทำไมต้อง Chocolate

.... ก็ชอบนิ คิดว่า ช็อคโกแลตก็เป็นความสุขของใครหลายคนอีกเหมือนกัน

ทำไมต้อง 37 Chocolatte

.... 37 คืออุณหภูมิร่างกายมนุษย์โดยปรกติ สาเหตุที่ช็อคโกแลตละลายเมื่อเข้าปาก ก็เพราะว่าอุณหภูมิหลอมละลายของช็อคโกแลตแท้อยู่ที่ 36 องศา ก็เลยใช้ตัวเลขนี้มาเป็นประโยชน์คาบบบบ

.... ส่วน Chocolatte ก็เป็นการผสมคำระหว่าง Chocolate และ Latte ซี่งแปลว่านม นั้นเอง เล่นคำให้มันเท่ห์ไปงั้น 555

เหตุผลของการทำ blog 37 Chocolatte

.... เพื่อเก็บบันทึกข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับช็อคโกแลต ประสพการณ์การไปเยี่ยมร้านช็อคโกแลต และการทดลองทำสูตรช็อคโกแลตต่างๆ ด้วยตนเอง

ช็อคโกแลตเบลเยี่ยม

ช็อคโกแลตเบลเยี่ยม

ในช่วงแรกๆ นั้นผู้ที่จะได้ลิ้มรสช็อคโกแลตจะเป็นเพียงผู้สูงศักดิ์หรือ ระดับเศรษฐีเท่านั้นเพราะว่าราคาแพงมากและถือเป็นของหายากชนิดหนึ่ง แต่เมื่อเข้ามาสู่ยุคอารยธรรมใหม่ มีการปฏิวัติในฝรั่งเศสทำให้ระบบศักดินาล่มสลายลง และช็อคโกแลตก็เข้าถึงประชาชนทั่วไปมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อวิทยาศาสตร์การแพทย์ค้นพบว่า ช็อคโกแลตสามารถรักษาอาการเกี่ยวกับช่องท้องได้ ทำให้ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น
ช่วงแรกนั้นช็อคโกแลตยังไม่ได้มีส่วนประกอบมากมายอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน ยังคงเป็นเพียงแท่งโกโก้เท่านั้น แต่เมื่อมีการค้นคว้ามากขึ้นก็สามารถบรรจุส่วนผสมต่างๆ ลงไปได้มากขึ้น เช่น นมผง ครีม คาราเมล หรือ อัลมอนด์ ทำให้ช็อคโกแลตมีรสชาติที่หลากหลายและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมาจนบัดนี้

ปัจจุบันนี้เรายกย่องกันว่าประเทศเบลเยี่ยมนั้นเป็นแหล่งผลิตช็อคโกแลต ที่ดีที่สุดในโลก คนที่ทำหน้าที่ในการผลิตช็อคโกแลตนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นช่างฝีมือประจำชาติเลยทีเดียว

ร้านช็อคโกแลตในเบลเยี่ยม ที่มีชื่อเสียงได้แก่

Neuhaus

Pierre Marcolini

Godiva


Leonidas

 Planete Chocolat


Wittamer



ประโยชน์ของช็อกโกแลต

เป็นที่ยอมรับกันว่า ช็อกโกแลตเป็นอาหารที่มีสารเคมีที่ส่งผลต่อระบบประสาท เล่ากันว่า นักรักชื่อกระฉ่อนโลกอย่างจิอาโคโม คาสซาโนวา (1725-1795) กินช็อกโกแลตก่อนขึ้นเตียงกับผู้หญิงที่หลงเสน่ห์ ด้วยช็อกโกแลตขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารกระตุ้นอารมณ์ใคร่ และผู้หญิงร้อยละ 50 สารภาพว่ากินช็อกโกแลตก่อนเมคเลิฟ

ไม่นานมานี้ มีงานวิจัยที่ศึกษากับเพศชายจำนวน 8000 คนที่สำเร็จการศึกษาจากฮาร์วาร์ด พบว่า คนที่รับประทานช็อกโกแลตเป็นประจำมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่เคยรับประทานช็อกโกแลต สาเหตุที่กินช็อกโกแลตแล้วอายุยืนอาจเกี่ยวข้องกับ สารโพลีฟีนอลที่มีอยู่จำนวนมากในช็อกโกแลต โพลีฟีนอลเป็นสารที่ช่วยลดอนุมูลอิสระของไลโปโปรตีนความแน่นต่ำ และช่วยป้องกันโรคหัวใจ แต่ความเชื่อดังกล่าวยังเป็นเรื่องถกเถียงกันอยู่

ปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองเปรียบเทียบกลุ่มที่รับประทานช็อกโกแลตเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ให้รับประทานช็อกโกแลตเทียม เพื่อทดสอบความจำพบว่า กลุ่มที่กินช็อกโกแลตสามารถจดจำคำพูดและภาพได้ดีกว่า และยังเคลื่อนไหวตอบสนองได้คล่องแคล่วกว่า ปัจจุบันนักวิจัยกำลังทดลองซ้ำเพื่อเปรียบเทียบผลอยู่

การทดลองเหล่านั้นสอดคล้องกับชีวิตของคนที่มีอายุเกินร้อยปีหลายคน ยกตัวอย่าง ฌอง คลามงต์ (1875-1997) และ ซาร่าห์ เคลาส์ (1880-1999) ทั้งสองคลั่งไคล้ช็อกโกแลตมาก คลามงต์ มีนิสัยติดกินช็อกโกแลตอาทิตย์ละสองปอนด์จนกระทั่งแพทย์ต้องแนะนำให้เธอเลิกกินเมื่ออายุได้ 119 ปี สามปีก่อนที่เธอจะลาโลกไปด้วยอายุ 122 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุยืนมักแนะนำให้กินช็อกโกแลตดำแทนขนมหวานมีแคลอรีสูงและนิยมกันมากในอเมริกา

ในอังกฤษ ช็อกโกแลตแท่งสอดใส่คานาบิสนิยมใช้กับผู้ป่วยโรค multiple sclerosis หรือโรคปลอกหุ้มเส้นประสาทอักเสบ หรือเอ็มเอส เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดกับระบบประสาทส่วนกลางแบบฉับพลัน โรคดังกล่าวมีพัฒนาการอย่างช้าๆ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางสายตา การพูด เมื่อรักษาเฉพาะอาการแล้วอาจเกิดขึ้นอีกได้ และร้ายแรงถึงขั้นอัมพาต ตาบอด และเสียชีวิต

ในช็อกโกแลตมีส่วนประกอบมากกว่า 300 ชนิดที่ต่างกัน เช่นอนันดาไมด์ และเอ็นโดจีนัส คานาบินอยด์ที่พบได้ในระบบประสาท คนที่ไม่เชื่อแย้งว่า หากกินช็อกโกแลตให้ออกฤทธิ์ต่อประสาทได้จริงคงต้องกินกันทีละหลายปอนด์มากถึงเห็นผล และกินมากๆ ยังเสี่ยงเป็นนิ่วด้วย ถึงกระนั้น มีข้อมูลน่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งคือ สารสองชนิดของอนันดาไมด์พบอยู่ในช็อกโกแลต ซึ่งเชื่อกันว่ามีผลช่วยยืดความรู้สึกสุขสบายให้ยาวนาน

ช็อกโกแลตยังมีกาเฟอีน แต่ไม่มากนักและยังสามารถหาได้จากแหล่งอื่นที่มีมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ช็อกโกแลตนมมีกาเฟอีนน้อยกว่าดื่มกาแฟชนิดกาเฟอีนต่ำเสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ช็อกโกแลตมีสารทริพโทฟาน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญ ทำหน้าที่ควบคุมเซโรโทนิน สารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์ เมื่อร่างกายขับเซโรโทนินออกมาช่วยให้ผ่อนคลายความวิตกกังวลได้

ช็อกโกแลตช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน สารที่คล้ายกับที่ได้จากฝิ่นที่ผลิตขึ้นเองในร่างกาย เมื่อร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินจะช่วยลดความเจ็บปวดได้ บางครั้งเชื่อว่า เอ็นดอร์ฟินมีส่วนช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและสงสัยกันว่าเป็นตัวที่ทำให้คนบางคนถึงขนาดติดช็อกโกแลตงอมแงม